วิตามิน

วิตามิน หรือ ไวตามิน เป็นสารประกอบอินทรีย์ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญที่สิ่งมีชีวิตต้องการในปริมาณเล็กน้อย[1] เรียกสารประกอบเคมีอินทรีย์ (หรือชุดสารประกอบที่สัมพันธ์กัน) ว่า วิตามิน ต่อเมื่อสิ่งมีชีวิตไม่สามารถสังเคราะห์สารนั้นได้ในปริมาณเพียงพอ และต้องได้รับจากอาหาร ฉะนั้น คำว่า "วิตามิน" จึงขึ้นอยู่กับทั้งสภาวะแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตหนึ่ง ๆ ตัวอย่างเช่นกรดแอสคอร์บิก (วิตามินซี) ถือเป็นวิตามินสำหรับมนุษย์ แต่ไม่ถือเป็นวิตามินสำหรับสัตว์อื่นส่วนใหญ่ การเสริมวิตามินสำคัญต่อการรักษาปัญหาสุขภาพบางอย่าง แต่มีหลักฐานประโยชน์การใช้ในผู้มีสุขภาพดีน้อย
ตามธรรมเนียม คำว่า วิตามิน ไม่รวมสารอาหารสำคัญอื่น เช่น แร่ธาตุ กรดไขมันจำเป็น หรือกรดอะมิโนจำเป็น (ซึ่งร่างกายต้องการสารเหล่านี้ในปริมาณมากกว่าวิตามินมาก) หรือสารอาหารอื่นอีกมากที่ส่งเสริมสุขภาพแต่ต้องการไม่บ่อย[2] ในปัจจุบัน ระดับสากลรับรองวิตามินอย่างสากลสิบสามชนิด วิตามินจำแนกโดยกัมมันตภาพทางชีวภาพและเคมี ไม่ใช่โครงสร้าง ฉะนั้น วิตามินแต่ละชนิดจึงหมายถึงสารประกอบวิตาเมอร์ (vitamer) ซึ่งล้วนแสดงกัมมันตภาพทางชีวภาพที่สัมพันธ์กับวิตามินหนึ่ง ๆ ชุดสารเคมีดังกล่าวจัดกลุ่มตามชื่อวิตามิน "ระบุทั่วไป" เรียงตามอันดับอักษร เช่น "วิตามินเอ" ซึงรวมสารประกอบเรตินัล เรตินอล และแคโรทีนอยด์ที่ทราบกันอีกสี่ชนิด วิตาเมอร์ตามนิยามสามารถเปลี่ยนเป็นรูปกัมมันต์ของวิตามินในร่างกายได้ และบางครั้งสามารถเปลี่ยนเป็นวิตาเมอร์อีกชนิดหนึ่งได้เช่นกัน
วิตามินมีหน้าที่ทางชีวเคมีหลากหลาย วิตามินบางตัวมีหน้าที่คล้ายฮอร์โมนเป็นตัวควบคุมเมแทบอลิซึมของแร่ธาตุ (เช่น วิตามินดี) บางตัวควบคุมการเจริญและการเปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เฉพาะของเซลล์และเนื้อเยื่อ เช่น วิตามินเอบางรูป หน้าที่อื่นของวิตามิน เช่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (เช่น วิตามินอีและวิตามินซีในบางครั้ง) วิตามินจำนวนมากที่สุด วิตามินบีคอมเพลกซ์ มีหน้าที่เป็นสารตั้งต้นของโคแฟกเตอร์เอนไซม์ ซึ่งช่วยเอนไซม์ทำงานเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในเมแทบอลิซึม ในบทบาทนี้ วิตามินอาจสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเอนไซม์ที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่พรอสเธติก (prosthetic group) ตัวอย่างเช่น ไบโอตินเป็นส่วนของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างกรดไขมัน วิตามินยังอาจสัมพันธ์ใกล้ชิดน้อยกว่ากับตัวเร่งปฏิกิริยาเอนไซม์ คือโคเอนไซม์ ซึ่งเป็นโมเลกุลจับได้ซึ่งมีหน้าที่นำหมู่เคมีหรืออิเล็กตรอนระหว่างโมเลกุลต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น กรดโฟลิกอาจนำหมู่เมทิล ฟอร์มิล และเมทีลินในเซลล์ แม้ว่าบทบาทเหล่านี้ในการสนับสนุนปฏิกิริยาเอนไซม์-สารตั้งต้นจะเป็นหน้าที่ของวิตามินซึ่งทราบกันดีที่สุด ทว่า หน้าที่อื่นของวิตามินก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน[3]
เมื่อกลางคริสต์ทศวรรษ 1930 มีเม็ดเสริมอาหารวิตามินบีคอมเพลกซ์ที่สกัดจากยีสต์และวิตามินซีกึ่งสังเคราะห์เชิงพาณิชย์วางขายเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านั้น วิตามินได้รับจากอาหารเพียงทางเดียว และปกติการเปลี่ยนอาหาร (ตัวอย่างเช่น ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างฤดูเพาะปลูกหนึ่ง ๆ) เปลี่ยนชนิดและปริมาณวิตามินที่ได้รับอย่างมาก ทว่า ตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา มีการผลิตวิตามินเป็นสารเคมีโภคภัณฑ์และมีเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสารปรุงแต่งวิตามินรวมทั้งกึ่งสังคราะห์และสังเคราะห์ราคาไม่แพงอย่างแพร่หลายมาก

รายการวิตามิน[แก้]

วิตามินแต่ละชนิดใช้ในหลายปฏิกิริยา ฉะนั้น ส่วนใหญ่จึงมีหลายหน้าที่[4]
ชื่อบอกทั่วไปของวิตามินชื่อเคมีวิตาเมอร์ (รายการไม่สมบูรณ์)สภาพละลายได้ปริมาณที่แนะนำ
(ชาย อายุ 19–70 ปี)[5]
โรคจากการขาดระดับปริมาณได้รับบน
(UL/วัน)[5]
โรคจากขนาดเกินแหล่งอาหาร
วิตามินเอเรตินอลเรตินาล, และ
แคโรทีนอยด์สี่ชนิด
รวมทั้ง บีตา-แคโรทีน
ไขมัน900 ไมโครกรัมตาบอดกลางคืนหนังคางคก, และ กระจกตาน่วม[6]3,000 ไมโครกรัมภาวะวิตามินเอเกินตับ ไข่ ส้ม ผลไม้สีเหลืองสุก ผักใบเขียว แครอท ฟักทอง ผักโขมฝรั่ง ปลา นมถั่วเหลือง นม
วิตามินบี1ไทอามีนน้ำ1.2 มิลลิกรัมโรคเหน็บชากลุ่มอาการเวอร์นิเก–คอร์ซาคอฟN/D[7]ง่วงนอนหรือกล้ามเนื้อผ่อนคลายในขนาดสูง[8]เนื้อหมู โอ๊ตมีล (oatmeal) ข้าวซ้อมมือ ผัก มันฝรั่ง ตับ ไข่
วิตามินบี2ไรโบเฟลวินน้ำ1.3 มิลลิกรัมโรคขาดวิตามินบี 2ลิ้นอักเสบโรคปากนกกระจอกN/Dผลิตภัณฑ์นม กล้วย ป๊อปคอร์น ถั่วสีเขียว หน่อไม้ฝรั่ง
วิตามินบี3ไนอาซินไนอะซินาไมด์น้ำ16.0 มิลลิกรัมโรคเพลแลกรา35.0 มิลลิกรัมตับเสียหาย (ขนาด > 2 ก./วัน)[9] และปัญหาอื่นเนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ผักหลายชนิด เห็ด ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียว
วิตามินบี5กรดแพนโทเทนิกน้ำ5.0 มิลลิกรัม[10]ความรู้สึกสัมผัสเพี้ยนN/Dท้องร่วง อาจมีคลื่นไส้และอาการแสบร้อนกลางอก[11]เนื้อสัตว์ บล็อกโคลี อะโวคาโด
วิตามินบี6ไพริด็อกซีนไพริด็อกซามีนไพริด็อกซัลน้ำ1.3–1.7 มิลลิกรัมโลหิตจาง[12] โรคเส้นประสาทหลายเส้น100 มิลลิกรัมการรับรู้อากัปกิริยาบกพร่อง เส้นประสาทเสียหาย (ขนาด > 100 มิลลิกรัม/วัน)เนื้อสัตว์ ผัก ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียว กล้วย
วิตามินบี7ไบโอตินน้ำ30.0 ไมโครกรัมผิวหนังอักเสบ ลำไส้เล็กอักเสบN/Dไข่แดงดิบ ตับ ถั่วลิสง ผักใบเขียว
วิตามินบี9กรดโฟลิกกรดโฟลินิกน้ำ400 ไมโครกรัมโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงใหญ่(megaloblastic anemia) และการขาดระหว่างตั้งครรภ์สัมพันธ์กับความพิการของทารกแรกเกิด เช่น นิวรัลทิวบ์ (neural tube) บกพร่อง1,000 ไมโครกรัมอาจบดบังอาการของการขาดวิตามินบี12 และผลอย่างอื่นผักใบ พาสตา ขนมปัง ธัญพืช ตับ
วิตามินบี12ไซยาโนโคบาลามินไฮดรอกซีโคบาลามินเมทิลโคบาลามินน้ำ2.4 ไมโครกรัมโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงใหญ่[13]N/Dผื่นคล้ายสิว [สาเหตุยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด]เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์อื่นจากสัตว์
วิตามินซีกรดแอสคอร์บิกน้ำ90.0 มิลลิกรัมลักปิดลักเปิด2,000 มิลลิกรัมวิตามินซีขนาดสูง (Vitamin C megadosage)ผลไม้และผักหลายชนิด ตับ
วิตามินดีคลอเลแคลซิเฟรอลเออร์โกแคลซิเฟรอลไขมัน10 ไมโครกรัม[14]โรคกระดูกอ่อนในเด็กและโรคกระดูกน่วม50 ไมโครกรัมภาวะวิตามินดีเกินปลา ไข่ ตับ เห็ด
วิตามินอีโทโคเฟอรอล,โทโคไตรอีนอลไขมัน15.0 มิลลิกรัมการขาดน้อยมาก; การเป็นหมันในชายและการแท้งในหญิง โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตกเล็กน้อยในทารกแรกเกิด[15]1,000 มิลลิกรัมพบภาวะหัวใจวายเพิ่มขึ้นในการศึกษาแบบสุ่มขนาดใหญ่ครั้งหนึ่ง[16]ผักและผลไม้หลายชนิด ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียวกับเมล็ดพืช
วิตามินเคฟิลโลควิโนนเมนาควิโนนไขมัน120 ไมโครกรัมเลือดออกง่ายN/Dเพิ่มเลือดจับลิ่มในผู้ป่วยที่ได้วาร์ฟาริน[17]ผักใบเขียว ไข่แดง ตับ

อกไก่ปั่น

อกไก่ปั่นแท้ 100% Tel. 089-537-7550